ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง 5 วันติด เข้าภาวะหมี จนท.เฟด ย้ำรุกขึ้นดอกเบี้ยเต็มกำลัง
ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ไปสู่สภาวะหมีเป็นที่เรียนร้อย ข้างหลังปิดตกเป็นวันที่ 5 ต่อเนื่องกัน นักลงทุนวิตกกังวลขึ้นดอกเบี้นทำเศรษฐกิจลดน้อยอย่างหนัก ด้านข้าราชการเฟด การันตี การปรับลดเงินเฟ้อเป็นวัตถุประสงค์สูงสุด ฉะนั้นยังคงจำต้องใช้แผนการการงินที่เข้มข้น
เมื่อคืนนี้ก่อนหน้านี้ (26 เดือนกันยายน65) ตรงเวลาอเมริกา ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ (Dow Jones) ปิดตลาดปรับลด 329.60 จุด หรือ -1.11% อยู่ที่ระดับ 29,260.81 จุด ดรรชนีแอสแอนด์พี 500 (S&P 500) ปิดตลาดปรับลด 38.19 จุด หรือ -1.03% อยู่ที่ระดับ 3,655.04 จุด รวมทั้งดรรชนีแนสแด็ก (Nasdaq) ปรับลด 65.00 จุด หรือ -0.60% อยู่ที่ระดับ 10,802.92 จุด
โดยตลาดหลักทรัพย์สหรัฐอเมริกา ยังคงถูกเทขายอย่างมาก 5 วันต่อเนื่องกัน จนกระทั่งทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 เดือนกว่าง เนื่องมาจากนักลงทุนกำลังวิตกกังวลแนวทางการคลังของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟด (Fed) ที่เดินหน้าปรับขึ้นดอกร้ายแรงต่อสู้เงินเฟ้อ ซึ่งอาจจะเป็นผลให้เศรษฐกิจเกิดภาวะลดน้อยอย่างหนัก ด้าน ลอเร็ตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ ให้ความคิดเห็นการเดินหน้าขึ้นดอกว่า ด้วยอัตราเงินเฟ้อสูงมากมายนั้นเป็นสิ่งที่ไม่สามารถที่จะยอมรับได้ เมื่อกำเนิดความไม่เที่ยง มันเป็นสิ่งที่ดีมากกว่าสำหรับผู้กำหนดแผนการ ที่จะเดินหน้าเชิงรุกมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่ากระบวนการทำแบบนี้ ถือได้ว่าเป็นการเตรียมพร้อมคุ้มครองป้องกันผลสรุปที่ห่วยแตกที่สุดไม่ให้มันเกิดมาได้
ดังนี้ใช้ความระแวดระวังมากขึ้นเรื่อยๆสำหรับการประเมินอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งต้องได้มีความเห็นว่าจำนวนดังที่กล่าวถึงแล้วมีการปรับพฤติกรรมน้อยลงแบบเดือนต่อเดือน จนถึงแน่ใจว่าเงินเฟ้อได้ผ่านจุดสุดยอดแล้ว อย่างไรก็แล้วแต่การปรับขึ้นดอกอีกยังคงมีความสำคัญอยู่ เพื่อชะลอเงินเฟ้อให้เหลือ 2% ตามวัตถุประสงค์ และก็จะอาจจะเป็นแบบงี้ไปอีกระยะหนึ่ง ก่อนหน้าที่ผ่านมา การสัมมนาของคณะกรรมการวางนโยบายการคลัง (FOMC) ลงความเห็นปรับขึ้นดอกอีก 0.75% เป็นครั้งที่ 3 ต่อเนื่องกัน สู่ระดับ 3.00-3.25% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับจากปี 2551 แล้วก็ส่งสัญญาณว่าจะขึ้นดอกอีก 1.25% สำหรับในการสัมมนาที่เหลืออีก 2 ครั้งในปีนี้ โดยคาดคะเนใหม่ของเฟด จะมีผลให้ดอกปลายปีนี้อยู่ที่ 4.25%-4.50% แล้วก็ปลายปีหน้า อยู่ที่4.50%-4.75%
